วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น้ำเอ่อ พักแพ กลางเต๊นท์ ตกปลาท่องเที่ยวธรรมชาติในราคาประหยัด

ใครที่ต้องการจะไปเที่ยวตกปลาทางจังหวัดกาญจนบุรี จะต้องนึกถึงอำเภอศรีสวัสดิ์ ที่มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติอย่างมากมาย มีป่าเขา มีน้ำตก มีทะเลสาบ และที่นี่เราจะอดนึกถึงไม่ได้นั่นคือที่ น้ำเอ่อ บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน บางคนอาจจะคุ้นๆหู บางคนอาจจะรู้จักเป็นอย่างดี แต่รับรองว่าเป็นส่วนน้อยแน่ๆเพราะที่นี่เป็นที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ส่วนใหญ่ที่จะรู้จักกันมักจะเป็นคนที่อยู่ในวงการตกปลา ที่มักแสวงหาแหล่งน้ำธรรมชาติใหม่ๆ
น้ำเอ่อ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่ที่อยู่ในหุบเขาต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชม. ระยะทางประมาณ 20กม.เศษ จากทางลาดยาง ระหว่างทางเป็นทางลูกรัง ข้างทางเป็นป่าไม้และภูเขาแต่ไม่สูงชัน สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยรถกระบะ รถตู้ รถเก๋ง แต่ต้องไม่โหลด แต่ถ้าเป็นหน้าฝนทางอาจแย่หน่อย




สถานที่พัก

น้ำเอ่อ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เนื่องจากอยู่ในป่าลึกถึง 20กม. ดังนั้นควรจะมีการเตรียมพร้อมในเรื่องอุปกรณ์และที่พักให้เรียบร้อย ที่นี่ไม่มีบ้านดีีดี หรือรีสอร์ทหรูๆ มีเพียงที่สำหรับกลางเต๊น และแพพักที่มีให้บริการสำหรับเช่าพักเป็นคืนๆ ราคาก็มีตั้งแต่ 1500-4500บาท แล้วแต่ลักษณะของแพพัก แต่แนะนำควรเลือกแพที่ไม่ได้ทำจากลูกบวบ เพราะอาจจะเสี่ยงกับสัตว์เลื้อยคลาน

ทำไมต้องมาตกปลาที่น้ำเอ่อ
ที่นี่อยู่ในเขตอุทยานติดป่าห้วยขาแข้งซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ มีลำธารน้อยใหญ่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งน้ำเอ่อนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งต้นน้ำที่ปลาน้ำจืดชนิดต่างๆมาออกันอยู่เพื่อรอช่วงฤดูกาลวางไข่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ห่างไกลความเจริญและชุมชนทำให้สัตว์น้ำเจริญเพาะพันธ์กันได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ระหว่างทางจะมีด่านซึ่งเขาจะเขียนป้ายไว้ว่าห้ามล่าปลาบึก เพราะที่นี่มีปลาบึกที่ใหญ่จริงๆครับ มักจะมีคนมาแอบล่าหาปลาบึกกันอยู่เป็นประจำ ที่นี่นอกจากได้มาตกปลาแล้วยังเท่ากับมาเที่ยวผ่อนคลายกับบรรยากาศที่เงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม คงทำให้ชีวิตเราได้สดชื่นกันบ้างครับ

สำหรับใครที่สนใจจะเดินทางมาน้ำเอ่อกรุณาเช็คเส้นทางให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวอย่างเต็มที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการหลงทางครับ ด้วยความปราถนาดีจาก Guide Tour Thailand ครับ






วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

    ชลบุรี  เป็นจังหวัดแห่งหนึ่งที่ติดกับฝั่งอ่าวไทยในภาคตะวันออก มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแห่งของประเทศ เช่นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ  ในด้านพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศด้วย เมื่อคร้งในอดีตจังหวัดชลบุรีเป็นแหล่งที่ตั้งของเมืองท่าที่มีความสำคัญมาก ในปัจจุบันนี้ก็เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่มีความสำคัญของประเทศ รองจากท่าเรือกรุงเทพนั่นก็ คือท่าเรือแหลมฉบัง เพราะมีทำเลที่ตั้งเหมาะสม จังหวัดชลบุรีมีอาณาเขตติดกับ จังหวัดชะเชิงทรา จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี
     ชลบุรีมีเนื้อที่โดยประมาณ 4,363 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,726,875 ไร่ เป็นอันดับ 51 ของประเทศ มีชายฝั่งทะเลสวยงาม เป็นหน้าผาหิน หาดทราย ป่าชายเลน และป่าชายหาด มีความยาวโดยประมาณ 160 กิโลเมตร
     มีลักษณะภูมิประเทศ  ที่ราบลูกคลื่นและเนินเขาทางด้านตะวันออก ที่ราบชายฝั่งทะเลตั้งแต่ปากแม่น้ำบางปะกงไปจนถึงอำเภอสัตหีบ ที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกง อุดมสมบูรณ์ด้วยดินตะกอน เหมาะแก่การทำการเกษตร และพื้นที่สูงชันและภูเขาทางตอนกลางและด้านตะวันออกของจังหวัด ไปจนถึงเกาะน้อยใหญ่อีกมากมายถึงกว่า 46 เกาะ ที่ทำหน้าที่เป็นปราการธรรมชาติ ช่วยป้องกันคลื่นลม ทำให้ชลบุรีไม่ค่อยมีคลื่นขนาดใหญ่ ชายฝั่งของชลบุรีจึงเต็มไปด้วยท่าจอดเรือประมง เหมาะสำหรับการสร้างท่าจอดเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่อีกด้วย
     ปัจจุบันสันนิษฐานว่าจังหวัดชลบุรี มีชุมชนอาศัยอยู่ ตั้งแต่ยุคทวารวดี โดยมีเมืองพระรถตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนิคม ในปัจจุบัน เป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมของท้องถิ่นในขณะนั้น เนื่องจากที่ตั้งของเมืองมีลำน้ำสายต่างๆ หลายสาย สามารถเดินทางทางน้ำไปยังชุมชนอื่นๆ เช่น เมืองศรีมโหสถ ในจังหวัดปราจีนบุรี หรือไปจนถึงอรัญประเทศได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเท้าผ่านเมืองพญาเร่ เป็นเมืองโบราณที่สำคัญเมืองหนึ่งในพื้นที่ ไปจนถึงเมืองระยองและจันทบุรีด้วย


          สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ
 -หาดพัทยา เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับประเทศและต่างประเทศ เช่นสถานบันเทิง ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก  หาดพัทยายาวประมาณ 3 กิโลเมตร ชายหาดทางด้านเหนือมีความสงบเหมาะสำหรับพักผ่อน ชายหาดตรงกลางไปจนถึงชายหาดทางใต้ส่วนใหญ่จะเป็นสถานบันเทิง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของฝากและอีกหลากหลาย
-หาดจอมเทียน มีความยาวของชายหาดโดยประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากพัทยาประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่างใต้ของของพัทยา ชายหาดจอมเทียนเป็นชายหาดที่เงียบสงบกว่าชายหาดอื่นๆ เหมาะสำหรับพักผ่อน เล่นน้ำและทำกิจกรรมทางน้ำ
-เกาะล้าน เป็นชายหาดที่มีน้ำใสสวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี ห่างจากฝั่งพัทยาโดยประมาณ  7 กิโลเมตร มีเนื้อที่โดยประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร ต้องนั่งเรือโดยสารใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที แต่ถ้าเดินทางโดยใช้เรือเร็วใช้เวลาเดินเวลาประมาณ 15 นาที  บนเกาะล้านจะมีหลายหาด เช่น หาดนวล หาดทองหลาง หาดเทียน หาดตาแหวน หาดแสม ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาเล่นน้ำ ดำดูปะการัง เล่นเครื่องเล่นต่างๆ บริเวณรอบๆเกาัะล้านมีเกาะเล็กๆอยู่อีกหลายเกาะ เช่น เกาะครก เกาะสาก เหมาะสำหรับ ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น และน้ำสึก
-หาดทรายแก้ว  อยู่ที่อำเภอสัตหีบ ใกล้โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ทหารเรือเป็นผู้ดูแล หาดทรายแก้วเป็นชายหาดที่สวยงาม เงียบสงบเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวแบบครอบครัว เพราะที่หาดทรายแก้วมีกฏข้อห้ามอยู่ คือ ห้ามก่อไฟ ห้ามประกอบอาหาร ห้ามเล่นการพนัน ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด  ที่หาดทรายแก้วมีบ้านพักหลังเล็กๆไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว เบอร์โทรศัพท์สำหรับสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 034-36187 ต่อ 2070,2607
-เกาะสีชัง เป็นอำเภอแหล่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี ห่างจากฝั่งศรีราชาโดยประมาณ  12 กิโลเมตร เรือสินค้านานาชาติจะมาจอดพักเรือที่บริเวณแหล่งด้วย แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆบนเกาะสีชัง เช่น
หาดถ้ำเขาพัง ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์  พระจุฑาธุชราชฐาน(ท่าวัง) ศาลเจ้าเขาใหญ่ และมณฑปรอยพระพุทธบาท
-หาดนางรำ จากต้นหาดถึงปลายหาดความยาวประมาณ  200 เมตร สุดปลายหาดคือ
แหลมนางรำมีรูปปั้นพระอภัยมณีและผีเสื้อสมุทรอยู่ หาดางรำตั้งอยู่ในเขตทหาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น สโมสรร้านอาหาร เครื่องดื่ม อาคารพักรับรอง มีหาดทรายที่สวยงามเหมาะสำหรับผักผ่อน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์ 038-431261 

-เขาสามมุก เป็นเนินเขาไม่สูงมาก อยู่ระหว่างอ่างศิลากับหาดบางแสน ข้างบนเขาจะมีจุดชมวิวที่สามารถมองลงมาเห็นหาดบางแสนได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก บริเวณเขาสามมุกมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในส่วนเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่เขาสามมุก เป็นที่เคารพของชาวชลบุรีและนักท่องเที่ยวทั่วไป เขาสามมุกยังเป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัดชลบุรีอีกด้วย 
-อุทยานหินล้านปี และฟาร์มจรเข้พัทยา มีเนื้อที่ประมาณ 100 กว่าไร่ อยู่ในตำบลหนองปลาไหล
บริเวณภายในตกแต่งด้วยหินรูปร่างสวยงามแปลกตา และไม้ดัดที่น่าสนใจ คือ ต้นไม้ที่กลายเป็นหินมีอายุนับล้านปี และไม้ดัดไทยที่มีอายุ 200 ปี และยังมีฟาร์มจระเข้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม นกนานาชนิดเช่น นกกระจอกเทศ นกอีมู  นกกระเรียน แล้วก็มีสัตร์หายากเช่น หมีเผือก จรเข้เผือก ม้าเผือก ม้าแคระ มีการแสดงของสัตร์อีกมากมาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ 0-3824-9347-9 กรุงเทพฯ โทรศัพท์0-2579-5033, 0 2941-3251–3 -สวนสัตร์เปิดเขาเขียว
มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดอาศัยอยู่มากกว่า  200 ชนิด มาจากแถบเอเชียและแอฟริกา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นหรือนั่งรถชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด    สวนสัตว์เปิดเขาเขียวอยู่ในอำเภอบางพระ มีเนื้อที่ประมาณ  5000 ไร่ เปิดให้นักท่องทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 - 18.00 น. ค่าบริการเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 70 บาท ชาวต่างชาวผู้ใหญ่ 100 บาท เด็กคนไทย 15 บาท เด็กชวต่าวชาติ 50 บาท  และช่วงกลางคืนมีบริการ ไนท์ซาฟารี ทุกวัน ระหว่างเวลา 18.00 – 21.00 น. นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นพฤติกรรมของสัตว์ที่หากินยามกลางคืน เช่น ละอง ละมั่งฝูงใหญ่ วัวแดง กระทิง -สวนเสือศรีราชา เป็นที่ท่องเที่ยวห่างจากอำเภอศรีราชาประมาณ 10 กิโลเมตร มีฟาร์เพาะเลี้ยงเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลประมาณ 200 กว่าตัว และยังมีฟาร์มจระเข้รวมถึงไปสัตว์อื่นๆอีกหลากหลายชนิด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. ค่าบริการเข้าชม ผู้ใหญ่ชาวไทย 100 บาท ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 300 บาท เด็กชาวไทย 50 บาท เด็กชาวต่างชาติ 150 บาท     
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์0-3829-6556-8 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2934-7841 -หาดบางแสน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแหล่งหนึ่งของเมืองไทย ห่างจากตัวจังหวัดชลบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร มีร้านอาหารมากมายให้หาท่านกันไม่ยาก และยังมีกิจกรรมทางน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวเล่นหลายชนิดเช่น  บาบาน่าโบ๊ต ห่วงยางว่ายน้ำ
-อันเดอร์ วอเตอรื เวิลด์ พัทยา(Underwater world pattata)
 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หน้าเที่ยวและหน้าศึกษาอีกที่หนึ่งของชลบุรี เพราะเป็นสถานที่รวบรวมแหล่งพันธ์ปลาหลากหลายชนิด นักท่องเที่ยวสามารถชมผ่านอุโมงค์แก้วที่ เปิดให้เห็นตัวปลาประเภทต่างๆหลากหลายชนิดที่ว่าอยู่รอบๆ สามารถมองเห็นได้ถึง 180 องศา ความยาวของอุโมงค์ยาว 105 เมตร อุโมงค์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

 โซนปะการัง มีปลาสวยงามหาดูยาก เช่น ปลาสิสมุทร ปลาพยาบาล ปลาผีเสื้อ และอีกมากมาย โซนปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน โซนเรืออัปปาง มีปลาประมงต่างๆ  เช่น ปลาเก๋า ปลาจาระเม็ดและอีกมาก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันเวลา 09.00 น.-18.00 น. ค่าบริการเข้าชม ผู้ใหญ่คนไทย  200 บาท ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 400 บาท เด็กชาวต่างชาติ 200 บาท  สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 038-7568
         และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ เช่น
-อุทยานหินล้านปี
-ฟาร์มจรเข้พัทยา                
-เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร 
-ทิฟฟานีโชว์
-สวนนงนุช พัทยา
-พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ บางแสน
-ตลาดน้ำี่ภาค
-หาดเตยงาม
-หาดนางรอง
-ตลาดหนองมน

              เส้นทางไปเที่ยวชลบุรี
ดินทางด้วยรถยนต์


ชลบุรีสามารถไปได้หลายเส้นทาง คือ ใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี ใช้เส้นทางสายกรุงเทพฯ-มีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา-บางปะกง เข้าสู่จังหวัดชลบุรี ใช้เส้นทางสายเก่า ถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ ไปจนถึงแยกอำเภอ          บางปะกง และให้แยกเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 34 ไปจนถึงจังหวัดชลบุรี ใช้เส้นทางหลวงพิเศษ (MOTOR WAY) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา โทร. 1193, 0 3839 2001
เดินทางด้วยรถโดยสาร
 มีรถบริการโดยสารปรับอากาศไปชลบุรีทุกวันต้องไปขึ้ที่เอกมัย  มีรถออกตั้งแต่เวลา 05.30-21.00 น. รถออกทุก 30 นาที โทร. 0 2391 9829  รถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 มีบริการระหว่างเวลา 05.00-21.00 น. ออกทุก 30 นาที โทร. 02-391 2504 รถโดยสารธรรมดามีบริการตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. ออกทุก 30 นาที โทร. 02-391 2504 หรือจะขึ้นรถที่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 ก็ได้ มีรถโดยสารปรับอากาศ วิ่งเส้นมอเตอร์เวย์ มีรถออกตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น. โทร. 02-936 2852-66 
  สถานีขนส่งสายใต้ เป็นรถโดยสารปรับอากาศไปพัทยาทุกวัน วิ่งเส้นบางนา-ตราด รถไปจอดที่ สถานีรถปรับอากาศ ถนนพัทยาเหนือ ของ บริษัท รถรุ่งเรือง จำกัด เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30-18.30 น. รถออกทุก 2 ชั่วโมง โทร. 02-884 5582 สาขาพัทยา โทร. 038-42 9877  
เดินทางด้วยรถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง  มีบริการรถไฟไปจังหวัดชลบุรีทุกวัน ๆ ละ 1 เที่ยว ไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ   พลูตาหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 1690, 02-220 4444, 02-222 4334 

เดินทางด้วยโดยรถตู้ ขึ้นได้ที่อนุสาวรีชัยฯ หน้าโรงหนังเซ็นจูรี่ คนละ 150 บาท รถออกตั้งแต่เวลา 6.00 - 20.00 น.

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ล่องแพ เดินป่า ตกปลา กาญจนบุรี

 กาญจนบุรี
เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองโบราณและเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ เมืองกาญจน์แต่เดิมตั้งอยู่ในเขตบ้านท่าเสา ตำบลลาดหญ้า สันนิษฐานว่า เมืองกาญเก่านี้ถูกสร้างมานาน เมื่อประมาณพ.ศ.1350 แต่มีหลักฐานในช่วงสงครามไทยพม่าประมาณปี พ.ศ.2081-2310 มีการเดินทัพผ่านด่านเจดีย์สามองค์ 10 ครั้งจากจำนวนทั้งสิ้น 24 ครั้ง  
  ลักษณะทางภูมิประเทศของจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนใหญ่จะเป็นป่า มีทั้งป่าดงดิบและป่าโปร่ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 129 กิโลเมตร
  กาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันตกที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ นิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะมีเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจและน่าศึกษา  รวมทั้งเป็นแหล่งอารยะธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยังเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศและโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่น่าสนใจและน่าศึกษามากมาย เช่น แม่น้ำ ป่าเขา ถ้ำและน้ำตก 
 กาญจนบุรียังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ การล่องแพชมธรรมชาติ เดินป่า ตกปลา       อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ประมาณ 128 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 17,483 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นป่า โดยเฉพาะชายแดน ที่ติดกับพม่า มีสภาพเป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด อาศัยอยู่ มากมาย และมีแม่น้ำ 2 สาย ที่สำคัญต่อจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างมากคือ แม่น้ำแควใหญ่ กับ แม่น้ำแควน้อย ไหลมาบรรจบกันที่ตัวเมืองกาญจนบุรี
   ตามลำน้ำแควใหญ่ มีเมืองสองเมือง คือ
  เมืองท่าดาน ยุบลงเป็นหมู่บ้านในกิ่งอำเภอศรีสวัสดิ์(ปัจจุบันคืออำเภอศรีสวัสดิ์)
  เมืองศรีสวัสดิ์(ด่านแม่แหลบ) ยุบลงเป็นกิ่งอำเภอไทรโยค(ปัจจุบันเป็นอำเภอศรีสวัสดิ์)




                    สถานที่ท่องเที่ยว
    อำเภอเมือง
-สะพานข้ามแม่น้ำแคว
-ทางรถไฟสายมรณะ
-สุสานกาญจนบุรี (ดอกรัก)
-พิพิธภัณฑ์อักษะเชลยศึก
-สุสานทหารสัมพันธมิตร(สุสานช่องไก่)  
-สุสานเขาปูน(ช่องไก่)
-พิพิธภัณฑ์ สงครามโลกครั้งที่ 2
-สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
-วัดถ้ำมังกรทอง
-ถ้ำพุพระหรือวัดถ้ำขุนแผน
-โบราณสถานในเขตกาญจนบุรีเก่า
-ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี
-ถ้ำมะเดื่อ
-วัดป่าเลไลยก์
-วัดถ้ำพุหว้า
-อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทับ

     อำเภอไทรโยค
-อุทยานแห่งชาติไทรโยค
-ช่องเขาขาด
-อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
-น้ำตกไทรโยคน้อย
-น้ำตกไทรโยค
-ถ้ำละว้า
-ถ้ำดาวดึงส์
-ถ้ำสวรรค์วังบาดาน
-ถ้ำไทรทอง
      อำเภอทองผาภูมิ
-เขื่อนเขาแหลม
-น้ำตกผาตาด
-น้ำพุหินดาด
-เหมืองปิล็อก
-น้ำตกเกริงกระเวีย
-น้ำตกทุ่งนางครวญ

     อำเภอสังขละบุรี
-ด่านเจดีย์สามองค์
-สังขละบุรี
-น้ำตกตะเคียนทอง 
-น้ำตกกระเต็งเจ็ง
-ถ้ำแก้วสวรรค์บาดาล
-น้ำตกคลี่ตี่
-เขตรักษาป่าพันธ์สัตร์ทุ่งใหญ่นเรศวร
-เที่ยวป่าสังขละบุรี

    อำเภอบ่อพลอย
-บ่อพลอย
-โครงการพระราชดำริห้วยองค์คต

    อำเภอศรีสวัสดิ์
-ศูยย์ศึกษาธรรมชาติและสัตร์ป่าน้ำพุ
-สวนเวลารำลึก
-เขื่อนศรีนครินทร์
-อุทยานแห่งชาติเอรวัณ
-น้ำตกเอรวัณ
-ถ้ำธารลอด
-ถ้ำัวังบาดาล
-ถ้ำพระธาตุ
-ถ้ำตาด้วง
-ถ้ำเรือ
-ถ้ำหมี
-อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
-น้ำเอ่อ
-น้ำตกห้วยขมิ้น
-น้ำตกธารเงิน

  อำเภอท่าม่วง
-เขื่อนแม่กลอง
-วัดถ้ำเขาน้อย
-วัดถ้ำเสือ

    อำเภอท่ามะกา
-โบราณสถานพงตึก
-พระแท่นดงรัง
-อุทยานมัจฉาวังสังกะวาส

    อำเภอพนมทวน
-โบราณสถานบ้านดอนเจดีย์



            เส้นทางไปท่องเที่ยว
    ทางรถยนต์
  ใช้ถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี นครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง   ถึง  จังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หรือใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1543
    ทางรถโดยสาร
ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ รถปรับอากาศชั้นหนึ่ง (วิ่งสายใหม่เส้นถนนบรมราชชนนี-นครชัยศรี) ออกทุก 20 นาที ตั้งแต่เวลา 05.00-22.30 น. รถปรับอากาศชั้นสองออกทุก 20 นาที มีบริการ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสายเก่า (ถนนเพชรเกษม-อ้อมใหญ่-นครชัยศรี) และเส้นทางสายใหม่ (ถนนบรมราชชนนี-นครชัยศรี) ตั้งแต่เวลา 05.10-21.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กาญจนบุรีทัวร์ โทร. 02-435 5012
รถไฟ
ออกจากสถานีรถไฟบางกอกน้อย วันละ 2 เที่ยว เวลา 07.40 น. และ 13.50 น. แวะจอดที่สถานีกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว ท่ากิเลน สถานีน้ำตก ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย โทร. 02-411 3102













































































วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยวเมืองเชียงราย

   เชียงราย เป็นชื่อจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือที่สุดของประเทศไทย ตั้งศาลากลางที่ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงรายอาณาเขตทิศเหนือจรดแควงเชียงตง ประเทศพม่าโดยมีทางหลวงแผ่นดินทะลุผ่านถึงกัน ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับแม่น้ำโขง ทิศตะวันออกจด ทิวเขาหลวงพระบางซึ่งปันเขตแดนไทยกับลาวและติดต่อกับจังหวัดพะเยา ทิศใต้กับจังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนทิศตะวันตกกับจังหวัดเชียงใหม่
    ปรากฏในพงศาวดารโยนกว่า พ่อขุนเม็งรายสร้างขึ้น ณ ที่เดิมเป็นเวียงชัยนารายณ์เมื่อ พ.ศ 1805 และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ.1839 ต่อมาไปสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับแม่น้ำปิง และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ.1860 จึงสวรรคตเพราะถูกฟ้าผ่า
สำหรับเมืองเชียงรายนั้น เมื่อพ่อขุนเม็งรายย้ายไปครองราชสมบัติที่เมืองเชียงใหม่แล้ว พระราชโอรสคือ ขุนคราม หรืออีกชื่อหนึ่งว่าพระไชยสงคราม ก็ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมา นับแต่นั้นเมืองเชียงรายก็ขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่
ครั้นต่อมาเมื่อแคว้นล้านนาไทยตกไปอยู่ในปกครองของพม่า พม่าได้ตั้งขุนนางมอญคือพระยาชิตวงศ์มาปกครองเมืองเชียงราย ซึ่งมอญก็คงครองเมืองเชียงรายสืบต่อ กันมาจนถึง พ.ศ. 2329ปีนั้น พระยายองกับพระยาแพร่คิดด้วยกันจะสวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพมหานครจึงจับเอาปะกามณี แม่ทัพที่พม่าตั้งให้ปกครองเมืองเชียงราย เป็นเชลยแล้วนำตัวส่งลงมาถวายยังกรุงเทพมหานคร
ต่อมา พ.ศ. 2330 พม่ายกกองทัพจากแคว้นเชียงตุงลงมา ตีได้เมืองเชียงแสนและเมืองเชียงราย ทัพเมืองฝางจึงเข้าสมทบทัพพม่า และทัพพม่านี้เดินทางผ่านเมืองพะเยาลงมาเอาเมืองนครลำปางแต่ถูกไทยตีแตกพ่ายกลับไป นับแต่นั้นเมืองเชียงรายก็ร้างไปถึง พ.ศ.2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้ตั้งเมืองเชียงรายขึ้นเป็นเมืองโดยให้สังกัดเมืองเชียงใหม่ กระทั่งพ.ศ.2453 จึงมีพระราชบัญญัติยกเมืองเชียงรายขึ้นเป็นจังหวัด



   จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ภาคเหนือของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพฯ 785 ก.ม. มีเนื้อที่ประมาณ 11,678.369 ตร.ก.ม. หรือประมาณ 7,298,981 ไร่
    จังหวัดเชียงราย อยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำกก เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ มีผู้คนเข้ามาตั้งหลักแหล่งอย่างไม่ขาดสายนับตั้งแต่สมัยต้นพุทธกาล หรือก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
 
    ภูมิประเทศของจังหวัดเชียงราย ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้และเทือกเขาสูง ทำให้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจากทะเลน้อยมาก และยังผลให้ฤดูร้อนกับฤดูหนาวมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก คือ ประมาณเดือนธันวาคมของทุกปีอุณหภูมิจะต่ำมาก เฉลี่ยประมาณ 8.7 องศาเซลเซียสและในเดือนเมษายนจะมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง โดยใน พ.ศ. 2541 เป็นปีที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดของจังหวัดเชียงราย คือ 36.4 องศาเซลเซียส



            สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย  
      อำเภอแม่ฟ้าหลวง
-ดอยแม่สลอง
เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรีใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน เลยจากอำเภอแม่จันไป ๑ กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป ๑๒ กิโลเมตร ถึงศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา เลยจากศูนย์ฯ ไปอีก ๑๑ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา จากนั้นเดินทางจากบ้านเย้าถึงบ้านอีก้อสามแยก ทางขวาไปหมู่บ้านเทอดไทย ส่วนแยกซ้ายไปดอยแม่สลอง ระยะทาง ๑๘ กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย ๔๒ กิโลเมใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน เลยจากอำเภอแม่จันไป ๑ กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป ๑๒ กิโลเมตร ถึงศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา เลยจากศูนย์ฯ ไปอีก ๑๑ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา จากนั้นเดินทางจากบ้านเย้าถึงบ้านอีก้อสามแยก ทางขวาไปหมู่บ้านเทอดไทย ส่วนแยกซ้ายไปดอยแม่สลอง ระยะทาง ๑๘ กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย ๔๒ กิโลเมตร
-บ้านเทอดไทย
จากเชียงราย ๖๖ กิโลเมตร
-ดอยหัวแม่คำ
สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๘๕๐ เมตร จากเชียงรายใช้เส้นทางเดียวกับทางขึ้นดอยแม่สลองสายเก่า ทางหลวงหมายเลข ๑๑๓๐ แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกอีก้อ ผ่านบ้านเทิดไทย ไปจนถึงบ้านแม่คำ ห่างจากตัวเมืองเชียงราย ๑๐๐ กิโลเมตร บ้านหัวแม่คำอยู่เกือบสุดชายแดน เส้นทางเป็นทางลูกรังคดโค้งไปตามทิวเขา ใช้เวลาเดินทางราว ๓ ชั่วโมง ดอยหัวแม่คำเป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่
เผ่าลีซอ เป็นกลุ่มชนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีอีก้อ ม้งและมูเซ
-พระตำหนักดอยตุง
เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากพันธุ์ ฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบ ๆ พระตำหนัก มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ ละ20 นาที เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา07.00-17.30น. ค่าเข้าชม 20 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร . 0 5376 7015-7 สวนแม่ฟ้าหลวง อยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุงมีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลี้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด
-สถูปดอยช้างมูบและสวนรุกขชาติช้างมูบ
-พระธาตุดอยตุง อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๗ . ๕ บนทางหลวงหมายเลข ๑๑๔๙ เป็นที่บรรจุ พระรากขวัญเบื้องซ้าย ( กระดูกไหปลาร้า ) ของพระพุทธเจ้านำมาจากมัธยมประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธ ศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย



อำเภอเมือง
-อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหราช
   ตั้งอยู่ที่ห้าแยกพ่อ
พ่อขุนเม็งรายได้สร้างเมืองเชียงรายขึ้นบนดอยทอง จากรากฐานเดิมที่เคยเป็นเมืองมาก่อน เมื่อ พ . ศ . ๑๘๐๕ ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ แห่งราชวงศ์เม็งราย และรวบรวมบ้านเล็กเมืองน้อยเข้าเป็นอาณาจักรล้านนาไทยจนเจริญรุ่งเรืองถึง ปัจจุบัน 
-กู่พระเจ้าเม็งราย ตั้งอยู่หน้าวัดงำเมือง บนดอยงำเมือง กู่นี้เป็นอนุสาวรีย์สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุอัฐิของพ่อขุนเม็งรายมหาราช -วัดพระสิงห์
-วัดพระแก้ว
-วัดพระธาตุดอยทอง
-วัดร่องขุ่น
-ศูนย์ภาษาวัฒนธรรมจีนสิรินธร
-สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ เชียงราย
-พิพิธภัณฑ์อูบคำ
-ถ้ำผาตอง-จุดท่องเที่ยวจากเชียงราย-ท่าตอน
-น้ำตกขุนกรณ์
- ล่องเรือแม่น้ำกก
-ไร่แม่ฟ้าหลวง 
-พิพิธภัณฑ์ชาวเขา
-น้ำพุร้อนโป่งพระบาท
-บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยมและบ่อน้ำร้อนผาเสริฐ 

    อำเภอแม่จัน
-พิพิธภัณฑ์พระ 
-ลานทองอุทยานวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง
-น้ำพุร้อนป่าตึงหรือน้ำพุร้อนห้วยหินฝน

    อำเภอแม่สาย
-ถ้ำปุ่ม ถ้ำปลา ถ้ำเสาหินพญานาค
-ถ้ำปุ่ม
-ถ้ำปลา 
-ถ้ำผาจม
-พระธาตุดอยเวา

    อำเภอเชียงแสน
-ทะเลสาบเชียงแสน
-สบรวก หรือ ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ
-พิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่น 
-หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ
-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
-วัดพระเจ้าล้านทอง 
-วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
-วัดป่าสัก 
-วัดพระธาตุผาเงา
-วัดเจดีย์เจ็ดยอด
-วัดพระธาตุจอมกิตติ
-วัดสังฆาแก้วดอนหัน

    อำเภอเชียงของ
อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ ๑๑๔ กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอำเภอเชียงแสน - เชียงของ ทางหลวงหมายเลข ๑๑๒๙ เป็นทางเลียบฝั่งโขง ห่างจากเชียงแสนประมาณ ๕๕ กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งคือ จากอำเภอแม่จัน ใช้เส้นทางแม่จัน - บ้านกิ่วพร้าว - บ้านแก่นทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๘ บ้านแก่น - บ้านทุ่งงิ้ว ทางหลวงหมายเลข ๑๑๗๔ และบ้านทุ่งงิ้ว - เชียงของ รวมระยะทางจากเชียงรายประมาณ ๑๓๗ กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสาย 
-ท่าเรือบั๊ค
-บ้านหาดบ้าย
        อำเภอเวียงแก่น
-ดอยผาตั้ง    อยู่ในความดูแลของกองทัพภาคที่ ๓ เป็นจุดชมวิวไทย- ลาว และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีดอกซากุระและดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล ๙๓ ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้ง 
หาดผาได ห่างจากเทศบาลเวียงแก่น ๑๒ กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวเหมาะสำหรับฤดูหนาว เกาะแก่งและแนวหาดทรายในลำน้ำโขงปรากฏเป็นบริเวณกว้างดูสวยงามมาก เป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว

       อำเภอเทิง 
-ภูชี้ฟ้า
สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑ , ๖๒๘ เมตร มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง ๒๕ กิโลเมตร มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า
-วัดพระธาตุจอมจ้อพระธาตุจอมจ้อเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิที่อยู่คู่เมืองเทิงมาตั้งแต่สมัยโบราณ กาล เป็นพระธาตุที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า  ห่างจากตัวเมืองเชียงราย ๖๕ กิโลเมตร

    อำเภอพาน
-อุทยานแห่งชาติดอยหลวง
-พระธาตุจอมแว่

    อำเภอแม่สรวย
-ดอยช้างดอยวาวี
-วัดพระเจ้าทองทิพย์ ประวัติกล่าวว่า ประมาณ พ.ศ. ๒๐๗๖ พระเจ้าเชียงใหม่ได้ยกพระธิดาให้กับพระเจ้าโพธิสารกษัตริย์แห่งกรุงศรีสัต ตนาคณหุต (สปป.ลาว) แต่ไม่มีโอรสจึงไปบนขอจากพระเจ้าทองทิพย์ พระมเหสีทรงประสูติพระโอรส พระนามว่าพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อพระชนมายุได้ ๑๒ พรรษา พระเจ้าเชียงใหม่ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาได้สวรรคตไม่มีราชบุตรสืบราชบัลลังก์ ข้าราชบริพารได้ทูลขอพระไชยเชษฐาไปครองเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าโพธิสารก็ทรงอนุญาตและขอให้อัญเชิญพระเจ้าทองทิพย์ไปด้วย โดยล่องเรือมาตามลำน้ำโขง ลำน้ำกก และลำน้ำลาว เมื่อเดินทางถึงที่ตั้งวัดในปัจจุบัน เรือก็เกยตื้นไม่สามารถเดินทางต่อไปได้จึงได้นิมนต์พระเจ้าทองทิพย์ ประดิษฐานไว้ ณ ที่นั่นเอง พระเจ้าไชยเชษฐาครองเมืองเชียงใหม่ได้ ๒ ปี พระบิดาก็สวรรคตจึงเสด็จกลับมาหลวงพระบาง พระองค์ได้นำพระพุทธรูปสำคัญของเมืองเชียงใหม่ไปด้วย เช่น พระแก้วมรกต พระพุทธสิหิงค์ พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว และอีกหลายองค์ ซึ่งต่อมาพระพุทธรูปทุกองค์ได้คืนกลับมาเมืองไทยหมด แต่พระเจ้าทองทิพย์ได้ค้างอยู่ในป่าเป็นเวลานานหลายร้อยปี พระเจ้าทองทิพย์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๘๐ เซนติเมตร สูง ๑๒๐ เซนติเมตร เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ว่า ถ้าใครต้องการมีบุตรให้มาบนขอ





    อำเภอเวียงป่าเป้า
-อุทยานแห่งชาติขุนแจ
อุทยานแห่งชาติขุนแจตั้งขึ้นเมื่อปี พ . ศ . ๒๕๓๘ เป็นอุทยานที่มีความร่มรื่นสมบูรณ์ของป่า มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย มีสัตว์ป่าหลายชนิด ได้แก่ ชะมด หมูป่า เก้ง เม่น หมี ลิงลม นกต่างๆ เช่น นกแซงแซวสีเทา เหยี่ยวรุ้ง นกตีทอง นกเขียวก้านทองปีกสีฟ้า เป็นต้น
-บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ
มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ๓ บ่อ บริเวณบ่อน้ำร้อนมีชาวบ้านนำไข่มาขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวทดสอบต้มในบ่อน้ำ ร้อน เป็นจุดแวะพักระหว่างการเดินทางจากเชียงใหม่-เชียงราย
             เส้นทางไปท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
รถยนต์
สามารถเดินทางได้ 3 เส้นทาง คือ 1. เส้นทางนครสวรรค์-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย จากรังสิตมาตามถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) แล้วแยกซ้าย
เข้าทางหลวงหมายเลข 32 ที่อำเภอวังน้อย จากนั้นผ่านจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก
เข้าสู่จังหวัดลำปาง แล้วตรงไปจังหวัดพะเยา จนเข้าสู่เชียงราย รวมระยะทาง 830 กิโลเมตร

2. เส้นทางนครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-เชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 เมื่อไปถึงจังหวัดนครสวรรค์ ให้แยก
ขวามือไปตามทางหลวงหมายเลข 117 (นครสวรรค์-พิษณุโลก) จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 (พิษณุโลก-เด่นชัย) จากจังหวัดพิษณุโลก ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ จนถึงอำเภอเด่นชัย ให้เลี้ยวไปทางจังหวัดแพร่ ตามทางหลวง
หมายเลข 101 (แพร่-น่าน) จนถึงอำเภอร้องกวาง เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 103 ไปบรรจบกับถนน
พหลโยธินที่อำเภองาว เข้าสู่จังหวัดพะเยา แล้วตรงต่อไปจนถึงเชียงราย ระยะทางประมาณ 804 กิโลเมตร

3. เส้นทางนครสวรรค์-ลำปาง-เชียงใหม่-เชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 จนไปถึงจังหวัดลำปาง จึงเปลี่ยน
ไปใช้ทางหลวงหมายเลข 11 (ลำปาง-เชียงใหม่) ผ่านไปจังหวัดลำพูน แล้วเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วใช้ทางหลวง
หมายเลข 118 (เชียงใหม่-เชียงราย) ผ่านดอยสะเก็ต แม่ขะจาน เวียงป่าเป้าเข้าสู่เชียงราย รวมระยะทาง 900 กิโลเมตร มีทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำพูนมาลำปาง บรรจบกับทางหลวงหมายเลข 1 เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

รถโดยสารประจำทาง
มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของ บ.ข.ส. และของเอกชน ไปเชียงรายทุกวัน แบ่งเป็นหลายเส้นทาง
ได้แก่ กรุงเทพฯ – เชียงราย, กรุงเทพฯ – แม่สาย, กรุงเทพฯ – เชียงแสน, กรุงเทพฯ – เชียงของ โดยจะมีรถออก
จากสถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 สอบถามรายละเอียดได้ที่
สถานีขนส่งสายเหนือ กรุงเทพฯ โทร. 0 2936 2852-66
สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1369
บริษัท สยามเฟิร์สทัวร์ กรุงเทพฯ โทร. 0 2954 3601-7 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1882
บริษัท สมบัติทัวร์ โทร. 0 2936 2495 สำนักงานเชียงราย
บริษัท อินทราทัวร์ โทร. 0 2936 2492 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1235
บริษัท คฤหาสน์ทัวร์ โทร. 0 2936 3531 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7083 
     รถไฟ
    จากรถไฟหัวลำโพง มีรถไฟไปลงที่จังหวัดลำปางหรือเชียงใหม่ แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์ ไปจังหวัดเชียงราย สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 

   เครื่องบิน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปเชียงราย และเที่ยวบินไป-กลับ ระหว่างเชียงราย-เชียงใหม่ ทุกวัน วันละ 2 เที่ยว สอบถามรายละเอียด โทร. 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000, 0 2356 1111 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1179, 0 5371 5207 สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5321 0043-5, 0 5321 1044

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวตลาดน้ำ ต้องตลาดน้ำดำเนิดสะดวก

  ราชบุรีเป็นดินแดนวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลองและสายหมอกแห่งขุนเขาตะนาวศรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตกที่มีภูมิประเทศหลากหลาย จากพื้นที่ที่ราบต่ำลุ่มแม่น้ำแม่กลองอันอุดม แหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้เศรษฐกิจนานาชนิด สู่พื้นที่สูงทิวเทือกเขาตะนาวศรีทอดตัวยาวทางทิศตะวันตกจรดชายแดนไทย-พม่า

  ราชบุรี เป็นเมืองเก่า มีหลักฐานทางโบราณวัตถุและโบราณสถานที่มีอยู่ พอจะเชื่อถือได้ว่า ราชบุรีเป็นเมืองๆ หนึ่งในแคว้นสุวรรณภูมิ มีนครปฐมเป็นมหานครซึ่งเรียกว่า “ทวารวดี” จากตำนานทางพุทธศาสนา เมื่อปี พ.ศ. 218 พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งประเทศอินเดียได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และได้เผยแพร่พุทธศาสนา สู่แคว้นสุวรรณภูมิโดยสมณทูต มีพระโสณะและพระอุตระเป็นหัวหน้าคณะ โดยใช้นครปฐม หรือทวารวดี เป็นเมืองหลักในการเผยแพร่พุทธศาสนา ตามการสันนิษฐานราชบุรี ซึ่งอยู่ในแคว้นสุวรรณภูมิ ก็คงจะเป็นหัวเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากแห่งหนึ่ง ตัวเมืองราชบุรีได้มีการย้ายที่ตั้งเมืองมาหลายสมัย จนกระทั่งครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ. 2440 ได้ย้ายเมืองมาตั้งยังที่เป็นศาลากลางจังหวัดในปัจจุบัน  

  ราชบุรี มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 5,196 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครอง ออกเป็น 10 อำเภอ คือ อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอโพธาราม อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอปากท่อ อำเภอจอมบึง อำเภอบางแพ อำเภอวัดเพลง อำเภอสวนผึ้ง อำเภอบ้านโป่งและอำเภอบ้าน     ที่ท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี


   ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราว 80 กิโลเมตร ในราวปี พ.ศ. 2409 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองดำเนินสะดวกระยะทางกว่า 32 กิโลเมตร เชื่อมแม่น้ำแม่กลองที่บางนกแขวกกับแม่น้ำท่าจีนที่ประตูน้ำบางยาง และมีคลองซอยเล็ก ๆ มากมาย ทำให้ชาวบ้านในราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร สามารถติดต่อกันทางน้ำได้สะดวก


    ธารน้ำร้อน บ่อคลึง
อำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี

   พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี
อยู่ริมถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง ใกล้กับหอนาฬิการิมแม่น้ำแม่กลอง อาคารพิพิธภัณฑ์เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดมาก่อน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2465

   สวนสัตว์เปิด สถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตร์ป่าประทับช้าง
อยู่ในตำบลปากช่อง เป็นสถานีเดียวในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ที่มีการเพาะเลี้ยงและแพร่พันธุ์เสือ นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ เช่น เลียงผา ไก่ต๊อก กวาง และสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด

   ถ้ำสาริกา   
อยู่ในตำบลธรรมเสน จากเขาช่องพรานจะมีทางแยกซ้ายมือไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นภูเขาลูกเล็กๆ เป็นที่ตั้งของถ้ำสาริกาซึ่งมีความสวยงาม   
   เขาแก่นจันทน์
เมื่อก่อนนี้ชื่อ เขาจันทน์แดง มีความสูงประมาณ 141 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด มีถนนตัดขึ้นไปถึงยอดเขา บนยอดมีวิหารประดิษฐานพระพุทธนิโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “พระสี่มุมเมือง” เป็นพระ 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองต่าง ๆ สี่เมืองได้แก่ ราชบุรี ลำปาง สระบุรี และพัทลุง เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ข้างบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองราชบุรีอย่างชัดเจน



   วัดเขาวัง
อยู่บนเขาสัตตนาถ ซึ่งเป็นภูเขาลูกย่อมๆ สูงประมาณ 44 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร มีทางรถยนต์ขึ้นถึงยอดเขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังบนเขานี้เมื่อ พ.ศ. 2416

  จิปถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว
เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของชุมชนบ้านคูบัว ด้วยความริเริ่มของชุมชนหลายองค์กรในพื้นที่ ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น จัดแบ่งออกเป็นห้องๆ ชั้นล่างจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณสมัยทวารวดี หุ่นขี้ผึ้งจำลองการริเริ่มโครงการพิพิธภัณฑ์

 ศูนย์สืบทอดศิลปผ้าจก ราชบุรี
ตั้งอยู่ในวัดแคทราย ถนนเพชรเกษม(ทางหลวงหมายเลข 3338 กม.4 ) ตำบลคูบัว เป็นศูนย์สาธิดการทอผ้าและจำหน่ายผ้าจกไทยญวน เก็บรักษาตัวอย่างผ้าจกที่มีลวดลายดั้งเดิม เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00–18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3230 0031   และที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น
  • พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน
  • ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
  • กิจกรรมชมแกะเดอะซีนเนอรี่
  • เขากระโจม
  • น้ำตกเก้าโจน (น้ำตกเก้าชั้น)
  • ไร่กุหลาบอุษาวดี
  • ฟาร์มกล้วยไม้ลันดาออร์คิต
  • พิพิธภัณฑ์ภโวทัย
  • น้ำพุร้อนโป่งกระทิง
  • สวนป่าสิริกิตต์ (แก่งส้มแมว)
  • ตลาดเจ็ดเสมียน
  • พระพุทธฉายถ้ำฤาษีเขางู
  • ถ้ำเขาบิน
  • ถ้ำจอมพล

           เส้นทางไปท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี
       ทางรถยนต์
ใช้เส้นทางสายเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านนครปฐม เข้าราชบุรีหรือเส้นทางสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 338) จากกรุงเทพฯ-พุทธมณฑลไปพบกับถนนเพชรเกษม ก่อนถึงตัวเมืองนครปฐม 16 กม. จากนั้นใช้ถนนเพชรเกษมตรงไปตัวเมืองราชบุรี รวมระยะทางประมาณ 100 กม
       ทางรถประจำทาง
มีบริการเดินรถ จากสถานีขนส่งสายใต้ไปจังหวัดราชบุรีทุกวัน ทั้งรถธรรมดา รถปรับอากาศ ชั้น 1 และรถปรับอากาศชั้น 2 วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามเพิ่ม เติม ได้ที่ ห้องจำหน่ายตั๋ว โทร. 0 2434 7192, 0 2435 5605 ริษัทราชบุรีกลุ่ม 76 (ราชบุรี) จำกัด โทร. 0 3233 8439, 0 3232 2776, 0 3232 5152, 0 3233 8276 รถปรับอากาศชั้น 1 (ราชบุรี) โทร. 0 3233 7787 มีรถออกทุก 20 นาที (เที่ยวแรกออกจากกรุงเทพฯเวลา 06.00 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 23.00 น.) (เที่ยวแรกออกจากราชบุรีเวลา 04.00 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 21.00 น.)

      ทางรถไฟ 
มีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ทุกวันใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง สถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร. 1690 หรือ0 2220 4334, 0 2220 4444 สถานีรถไฟธนบุรี โทร. 0 2411 3102 และสถานีรถไฟราชบุรี
โทร. 0 3233 7002

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวกระบี่ ทะเลสวย น้ำใส

กระบี่ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร กระบี่ ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่าบริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่มากแห่ง หนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือเมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตรที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะ สร้างเมือง



          ที่ท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

  -หมู่เกาะพีพี  
มรกตกลางอันดามัน ที่ใครหลายคนปรารถนาจะมาเยือน ด้วยความงามของภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสวยใส การเดินทางที่สะดวกสบาย พรั่งพร้อมไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า แหล่งบันเทิง รวมถึง บริการด้านการท่องเที่ยวที่ครบครัน เป็นสิ่งที่คอยดึงดูดผู้คนจากต่างแดน ให้เดินทางมาสัมผัสกับสวรรค์บนดินแห่ง   
  -อ่าวขนาบน้ำ
เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า

 -อ่าวมาหยา เกาะพีพี
เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า

 -เกาะไก่
เกาะปอดะนอก หรือ เกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดจินตนาการต่างๆกันไป บ้างก็เห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมองเห็นเป็นป็อบอาย 
  -อ่าวไร่เลย์
อ่าวไร่เลย์ และหาดอ่าวพระนาง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ในบริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่งมีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของอ่าวเป็นภูเขา มีถ้ำหินงอก หินย้อย เรียกว่า ถ้ำพระนาง ภายในถ้ำจะเป็นหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ
  -ทะเลแหวก
ทะเลแหวก ลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตา ใครจะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออก จนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะอย่างอัศจรรย์

  -เกาะไม้ไผ่
เกาะไม้ไผ ตั้งอยูทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไมไกลจากเกาะยูงเทาใดนัก ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงามและแนวปะการังซึ่งสวนมากเป็นแนว ปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใตของเกาะ จนได้รับขนานนามว่าเป็น "ดงปะการังแสนไร่" ท่ามกลางทะเลอันดามัน
  -อ่าวปิเละ
อ่าวปิเละ เมื่อหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้ว ผนังถ้ำใต้ทะเลของเกาะแห่งนี้ทนรับน้ำหนักหินปูนหลายหมื่นตันที่อยู่ด้านบน ไม่ไหว ถึงแก่กาลพังทลายยุบตัวลงมาพร้อมกัน เกิดเป็นแอ่งกว้างเกือบเป็นรูปทรงกลม การยุบตัวในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย บางบริเวณที่อยู่บนบก แอ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกลายเป็นบึง เช่น ทะเลบัน (สตูล) บึงแฝด (อุ้มผาง)ฯลฯ

 -วัดถ้ำเสื้อ
วัดถ้ำเสือ" ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่มาไม่ไกลนัก ราวๆ5-6 กิโลเมตร ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่ วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก

  -สระมรกต
สระมรกต สระน้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน
  -เกาะห้อง กระบี่
เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เกาะห้อง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะเหลาบิเละ เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ โดยมีจุดที่น่าสนใจได้แก่ อ่าวบิเละ เป็นอ่าวที่มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใส มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็นอยู่ทั่วไป
  -เกาะผักเบี้ย 
เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วย ต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ริมหาด เกาะผักเบี้ยนี้ แม้ว่าจะมีแนวชายหาดที่ไม่กว้างมากนัก  แต่ก็มีหาดทรายที่ขาวสะอาดไม่แพ้หาดอื่นๆ เมื่อน้ำลงสันทรายที่เกาะผักเบี้ยนี้จะปรากฏเป็นแนวยาวไปจนจรดอีกเกาะหนึ่ง
 -หาดถ้ำพระนาง 
หาดอ่าวพระนาง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ในบริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่งมีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของอ่าวเป็นภูเขา มีถ้ำหินงอก หินย้อย เรียกว่า ถ้ำพระนาง ภายในถ้ำจะเป็นหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ

  -ป่าพรุ ท่าปอม คลองสองน้ำ
อยุ่ที่ ต.เขาคราม อ. เมือง อยุ่ในความดูแลของ อบต.เขาคราม เป็นแหล่งศึกษาเชิงนิเวศวิทยา เพื่อเรียนรู้ความสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งในแง่ของทางน้ำใต้ดิน และพืชพรรณที่สามารถเติบโตได้ทั้งในน้ำและบนดิน คลองสองสายน้ำมีลักษณะพิเศษคือ ลำคลองมีทั้งช่วงที่น้ำจืดสนิท

 -สุสานหิน 45 ล้านปี
อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยาน แห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร
  -น้ำตกร้อน
น้ำตกร้อน สายน้ำจากเนินเขากลางป่า ไหลไปตามความลาดเอียงของพื้นที่ ผ่านธารน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาจากแหล่งแร่น้ำร้อนใต้ดิน ผสมผสานรวมกัน จนมีอุณหภูมิประมาณ ๔๐-๕๐ องศาเซลเซียส สายน้ำเคลื่อนตัวผ่านป่าระกำ บางช่วงมีควันกรุ่น และคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนา ทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามแปลกตา ก่อนจะไหลลงสู่อ่างอาบน้ำธรรมชาติ เกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตกเล็กๆ และสิ้นสุดลงที่ลำคลองสะพานยูง



 เส้นทางไปท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

ทางรถยนต์
จากกรุงเทพฯ
1. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่
ระยะทาง 946 กิโลเมตร
2. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอ
หลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก
แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
จากภูเก็ต
การเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร 

 เดินทางโดยรถโดยสาร 
มีบริการรถโดยสารธรรมดา รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 ชั้น2 และ VIP จาก กรุงเทพฯ – กระบี่ และ กระบี่ – กรุงเทพฯ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 11 – 12 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 0-24358-5605, 0-2435-1195
   หรือที่ จ.กระบี่ โทร. 0-7561-1804


 เดินทางโดยรถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ลงได้ 3 สถานี คือ
1.สถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสารไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร
2.สถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสารไปยังจ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
3.สถานีรถไฟ จ.ตรัง แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสารไปยังจ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 0-2223-7010, 0-2223-7020

 เดินทางโดยเครื่องบิน
จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ลงที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัทการบินไทย จำกัด โทร. 280-0060, 628-2000

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวสมุยทะเลสวย ฟ้าใส สวรรค์กลางอ่าว

  เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจูลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกาะสมุยเป็นเมืองส่งส่วยอากร  ขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช มีที่ว่าเมื่องอยู่ที่บานดอนแตง  ใกล้วัดประเดิม หมู่ 1 ตำบลหน้าเมื่องอยู่ทางทิศใต้ของสมุย
เมื่อเกาะสมุยเป็นเมื่องส่งส่วยแก่เมื่องนครศรีธรรมราชจึงส่งคนมาปกครองเกาะสมุย
  ในปี พ.ศ.2427  เมื่อสมเด็จฯ กรมพระยาภานุพันธุ์วงค์วรเดช ได้มาตรวจราชการหัวเมืองปักษ์ใต้  จึงทราบว่าชาวเกาะไม่อยากอยู่ใต้ปกครองเมืองนครศรีธรรมราช เพราะถูกกดขี่ขมเหง ชาวเกาะสมุยเกรงอาญา
เจ้าพระยานคร  ชาวเกาะสมุยจึงได้ร้องทุกข์  กับสมเด็จฯ  กรมพระยาภานุพันธุ์วงค์วรเดช  ต่อมาพระองค์ทรงแวะเยียมเยียนที่เมืองไชยา เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในสมัยนั้น ได้ทรงพบปะกับพระยาไชยา(ขำ ศรียาภัย) เจ้าเมือง(ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาจีสัตยารักษ์) ก็ทรงชอบพอัธยาศัยของพระยาไชยา  จึงได้กราบทูลให้พระบาทสมเด็จฯพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบถึงความต้องการของชาวเกาะสมุย  จึงทำให้เกาะสมุยมาขึ้นกับเมืองไชยาต่อจากนั้นมา
   เมื่อปี พ.ศ. 2440 (ร.ศ. 116) มีการจัดระบบการปกครองใหม่ โดยยุบรวมหัวเมืองต่างๆ ตั้งเป็นมณฑลจังหวัด และอำเภอเมืองเกาะสมุยกับเกาะพะงันถูกยุบรวมเป็นอำเภอเดียวกัน  และได้ส่งหลวงพิพิธอักษร
(สิงห์ สุวรรณราช) ไปเป็นนายอำเภอคนแรกของเกาะสมุย



  อำเภอเกาะสมุยเป็นอำเภอที่มีสภาพเป็นหมู่เกาะ ในอ่าวไทย อยู่ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี  1ใน 3 เป็นที่ราบล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งของฝั่งทะเลอ่าวไทย อำเภอเกาะสมุยมีพื้นที่ประมาณ 252  ตารางกิโลเมตร

           สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสมุย
                  
        หาดตลิ่งงาม
เป็นหาดขึ้นชื่อในการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ เนื่องจากด้านหน้าของหาดเป็นที่ตั้งของเกาะสี่เกาะห้า ในเวลาที่ดวงอาทิตย์ตก จะสามารถมองเห็นภาพของดวงอาทิตย์ตกลงระหว่างกลางเกาะทั้งสอง และจมหายไปในทะเลเป็นภาพที่สวยงามมาก

       หาดละไม
ด้วยความสวยของโค้งอ่าว ที่มีทิวมะพร้าวปลูกอยู่เป็นแนว ในบางช่วงของหาดระดับน้ำลึก คลื่นแรง แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อบนหาดแห่งนี้ ได้แก่ ศูนย์วัฒนธรรมวัดละไมและหินตา หินยาย โขดหินรูปร่างประหลาดบริเวณอ่าวละไม ซึ่งเล่ากันว่ามีตา-ยายชาวปากพนังคู่หนึ่งเดินทางด้วยเรือใบไปจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์เพื่อจะไปสู่ขอผู้หญิงให้กับลูกชาย แต่เมื่อเรือแล่นมาถึงแหลมละไมเกิดพายุใหญ่จนเรือล่มทำให้ตาและยายเสียชีวิต แล้วคลื่นก็ซัดขึ้นมาเกยที่หาดจนกลายเป็นหิน
 และที่ท่องเที่ยวอื่นๆเช่น
-หาดเฉวง
-หาดหน้าทอง

-หาดแม่น้ำ
-หาดบ่อผุด
-หาดเชิงมน
-หาดบางรักษ์(หาดพระใหม่)
-น้ำตกหน้าเมือง
-เกาะแตน
-หินตาหินยาย  



                เส้นทางไปท่องเที่ยวสมุย
   ทางรถยนตร์
     จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๕ (ธนบุรี-ปากท่อ)ถึสามแยกปากท่อ-ราชบุรี-เพชรบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ถึงสี่แยกปฐมพรจังหวัดชุมพร ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงแยกหนองขรี แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 401 ตรงไปผ่านอำเภอกาญจนดิษฐ์ พอข้ามสะพานคลองบ้านใน ให้ชิดซ้าย  เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4242 ราว30 กิโลเมตรถึงสามแยกตลาดดอนสักเลี้ยวขวาเข้าท่าเรือเฟอร์รี่ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด สามารถนำ รถข้ามลงเรือไปได้ รวมระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางด้วยเรือประมาณ 1.30 ชั่วโมง



  ทางรถโดยสาร  
  
จากสถานีขนส่งสายใต้มีบริการรถโดยสารปรับอากาศจากกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ฯ ทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง จากนั้นต้องนั่งรถโดยสารประจำทางไปท่าเรือเฟอร์รี่ที่อำเภอดอนสัก หรือจะเหมาแท็กซี่ไปส่งก็ได้ นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารระหว่างกรุงเทพฯ-เกาะสมุย อีกด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
บริษัท ขนส่ง จำกัด    โทรศัพท์ 0 2435 5605,0 2434 7192
บริษัท โสภณทัวร์      โทรศัพท์ 0 2435 5023,0 2435 7477 
บริษัท กรุงสยามทัวร์  โทรศัพท์0 2435 5024,0 2282 2118,0 2884 9383
บริษัท ทรัพย์ไพศาลทัวร์ โทรศัพท์ 0 2884 9584,0 2435 5017,0 2448 5765-
7

 ทางเครื่องบิน
เส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ-เกาะสมุยด้วย สายการบินที่ให้บริการเส้นทางบินสู่สุราษฎร์ฯ และเกาะสมุยเช่น บริษัท การบินไทย ให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ฯ โทรศัพท์ 1566,0 26282000 สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส ให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ-เกาะสมุยและจากเกาะสมุยยังมีเส้นทางบินไปยัง จังหวัดกระบี่และภูเก็ตด้วยโทรศัพท์ 0 2265 5555