เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองโบราณและเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ เมืองกาญจน์แต่เดิมตั้งอยู่ในเขตบ้านท่าเสา ตำบลลาดหญ้า สันนิษฐานว่า เมืองกาญเก่านี้ถูกสร้างมานาน เมื่อประมาณพ.ศ.1350 แต่มีหลักฐานในช่วงสงครามไทยพม่าประมาณปี พ.ศ.2081-2310 มีการเดินทัพผ่านด่านเจดีย์สามองค์ 10 ครั้งจากจำนวนทั้งสิ้น 24 ครั้ง
ลักษณะทางภูมิประเทศของจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนใหญ่จะเป็นป่า มีทั้งป่าดงดิบและป่าโปร่ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 129 กิโลเมตร
กาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันตกที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ นิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะมีเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจและน่าศึกษา รวมทั้งเป็นแหล่งอารยะธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยังเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศและโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่น่าสนใจและน่าศึกษามากมาย เช่น แม่น้ำ ป่าเขา ถ้ำและน้ำตก
กาญจนบุรียังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ การล่องแพชมธรรมชาติ เดินป่า ตกปลา อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ประมาณ 128 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 17,483 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นป่า โดยเฉพาะชายแดน ที่ติดกับพม่า มีสภาพเป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด อาศัยอยู่ มากมาย และมีแม่น้ำ 2 สาย ที่สำคัญต่อจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างมากคือ แม่น้ำแควใหญ่ กับ แม่น้ำแควน้อย ไหลมาบรรจบกันที่ตัวเมืองกาญจนบุรี
ตามลำน้ำแควใหญ่ มีเมืองสองเมือง คือกาญจนบุรียังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ การล่องแพชมธรรมชาติ เดินป่า ตกปลา อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ประมาณ 128 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 17,483 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นป่า โดยเฉพาะชายแดน ที่ติดกับพม่า มีสภาพเป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด อาศัยอยู่ มากมาย และมีแม่น้ำ 2 สาย ที่สำคัญต่อจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างมากคือ แม่น้ำแควใหญ่ กับ แม่น้ำแควน้อย ไหลมาบรรจบกันที่ตัวเมืองกาญจนบุรี
เมืองท่าดาน ยุบลงเป็นหมู่บ้านในกิ่งอำเภอศรีสวัสดิ์(ปัจจุบันคืออำเภอศรีสวัสดิ์)
เมืองศรีสวัสดิ์(ด่านแม่แหลบ) ยุบลงเป็นกิ่งอำเภอไทรโยค(ปัจจุบันเป็นอำเภอศรีสวัสดิ์)
สถานที่ท่องเที่ยว
อำเภอเมือง
-สะพานข้ามแม่น้ำแคว
-ทางรถไฟสายมรณะ
-สุสานกาญจนบุรี (ดอกรัก)
-พิพิธภัณฑ์อักษะเชลยศึก
-สุสานทหารสัมพันธมิตร(สุสานช่องไก่) -สุสานเขาปูน(ช่องไก่)
-พิพิธภัณฑ์ สงครามโลกครั้งที่ 2
-สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
-วัดถ้ำมังกรทอง
-ถ้ำพุพระหรือวัดถ้ำขุนแผน
-โบราณสถานในเขตกาญจนบุรีเก่า
-ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี
-ถ้ำมะเดื่อ
-วัดป่าเลไลยก์
-วัดถ้ำพุหว้า
-อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทับ
-อุทยานแห่งชาติไทรโยค
-ช่องเขาขาด
-อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
-น้ำตกไทรโยคน้อย
-น้ำตกไทรโยค
-ถ้ำละว้า
-ถ้ำดาวดึงส์
-ถ้ำสวรรค์วังบาดาน
-ถ้ำไทรทอง
อำเภอทองผาภูมิ
-เขื่อนเขาแหลม
-น้ำตกผาตาด
-น้ำพุหินดาด
-เหมืองปิล็อก
-น้ำตกเกริงกระเวีย
-น้ำตกทุ่งนางครวญ
-ด่านเจดีย์สามองค์
-สังขละบุรี
-น้ำตกตะเคียนทอง
-น้ำตกกระเต็งเจ็ง
-ถ้ำแก้วสวรรค์บาดาล
-น้ำตกคลี่ตี่
-เขตรักษาป่าพันธ์สัตร์ทุ่งใหญ่นเรศวร
-เที่ยวป่าสังขละบุรี
อำเภอบ่อพลอย
-บ่อพลอย
-โครงการพระราชดำริห้วยองค์คต
อำเภอศรีสวัสดิ์
-สวนเวลารำลึก
-เขื่อนศรีนครินทร์
-อุทยานแห่งชาติเอรวัณ
-น้ำตกเอรวัณ
-ถ้ำธารลอด
-ถ้ำัวังบาดาล
-ถ้ำพระธาตุ
-ถ้ำตาด้วง
-ถ้ำเรือ
-ถ้ำหมี
-อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
-น้ำเอ่อ
-น้ำตกห้วยขมิ้น
-น้ำตกห้วยขมิ้น
-น้ำตกธารเงิน
อำเภอท่าม่วง
-เขื่อนแม่กลอง
-วัดถ้ำเขาน้อย
-วัดถ้ำเสือ
อำเภอท่ามะกา
-โบราณสถานพงตึก
-พระแท่นดงรัง
-อุทยานมัจฉาวังสังกะวาส
อำเภอพนมทวน
-โบราณสถานบ้านดอนเจดีย์
เส้นทางไปท่องเที่ยว
ทางรถยนต์
ใช้ถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี นครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึง จังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หรือใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1543 ทางรถโดยสาร
ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ รถปรับอากาศชั้นหนึ่ง (วิ่งสายใหม่เส้นถนนบรมราชชนนี-นครชัยศรี) ออกทุก 20 นาที ตั้งแต่เวลา 05.00-22.30 น. รถปรับอากาศชั้นสองออกทุก 20 นาที มีบริการ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสายเก่า (ถนนเพชรเกษม-อ้อมใหญ่-นครชัยศรี) และเส้นทางสายใหม่ (ถนนบรมราชชนนี-นครชัยศรี) ตั้งแต่เวลา 05.10-21.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กาญจนบุรีทัวร์ โทร. 02-435 5012 |
รถไฟ |
ออกจากสถานีรถไฟบางกอกน้อย วันละ 2 เที่ยว เวลา 07.40 น. และ 13.50 น. แวะจอดที่สถานีกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว ท่ากิเลน สถานีน้ำตก ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย โทร. 02-411 3102 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น